บริการให้คำปรึกษาและรักษาโรคหนองในแท้ หนองในเทียม
โรคหนองในแท้และเทียม
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกชนิดที่ควรระวังคือ โรคหนองใน ซึ่งหนองในนั้นแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ หนองในแท้ และ หนองในเทียม โดยบทความนี้ คุณหมอจาก PSK Clinic ของเราจะมาอธิบายถึงความแตกต่างและวิธีการรักษาเบื้องต้น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
โรคหนองในแท้
โรคหนองในแท้ หรือ Gonorrhea เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย Neisseria gonorrhea ซึ่งพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงที่ยังมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ โดยการติดเชื้อหนองในแท้นั้นสามารถติดได้ทั้งที่ อวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก และในช่องคลอด
โรคหนองในแท้สามารถติดต่อได้จากทางไหนบ้าง?
โรคหนองในแท้สามารถติดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกับผู้ที่ติดเชื้อหนองในแท้
- ผ่านทางช่องคลอด
- ทางทวารหนัก
- ทางปาก
นอกจากนี้ในมารดาที่มีการติดเชื้อหนองในแท้ระหว่างที่ตั้งครรภ์สามารถแพร่เชื้อหนองในแท้สู่ลูกในขณะที่คลอดได้อีกด้วย
โรคหนองในแท้มีอาการอย่างไรบ้าง?
ส่วนใหญ่ของผู้ที่ติดเชื้อหนองในแท้มักจะไม่แสดงอาการ
- ในผู้ชายที่ติดเชื้อหนองในแท้จะไม่มีอาการประมาณ 10-15%
- ในผู้หญิงที่ติดเชื้อหนองในแท้จะไม่มีอาการประมาณ 80%
อาการของโรคหนองในแท้ที่พบได้ในผู้หญิง
- มีอาการปัสสาวะแสบขัด
- มีอาการตกขาวเหลืองเขียว
- และอาจจะมีอาการเลือดออกขณะที่มีเพศสัมพันธ์
อาการของโรคหนองในแท้ที่พบได้ในผู้ชาย
- มีอาการปัสสาวะแสบขัด
- มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ
- และอาจจะมีอาการปวดบวมบริเวณท่อสร้างอสุจิ
นอกจากนี้ในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก อาจจะมีอาการของหนองในแท้ที่ทวารหนัก ได้แก่ มีหนองเหลืองปนกับอุจจาระ มีอาการคันในรูทวาร มีอาการปวดเวลาถ่ายอุจจาระ มีเลือดออกจากทวารหนักได้ หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราติดเชื้อหนองในแท้?
การตรวจคัดกรองการติดเชื้อหนองในแท้หรือไม่ สามารถทำได้โดยการนำหนองจากท่อปัสสาวะ, หนองจากช่องคลอด, หรือหนองจากทวารหนัก มาย้อมเชื้อเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหนองในแท้หรือไม่ ซึ่งวิธีการย้อมหนองนั้นสามารถใช้ได้ในกรณีที่มีอาการและมีหนอง สำหรับกรณีที่มีอาการแต่ไม่มีหนอง การย้อมเชื้อนั้นอาจจะมีความแม่นยำที่น้อยลงได้
ปัจจุบันมีการตรวจหาการติดเชื้อหนองในแท้ที่นิยมตรวจ 2 วิธี
- ตรวจแบบ Rapid test ในผู้ที่มีอาการและมีหนอง โดยผลการตรวจมีความแม่นยำสูงกว่าการย้อมเชื้อหนองในแท้
- ตรวจแบบ PCR test ในผู้ที่มีอาการและไม่มีหนอง หรือผู้ที่ต้องการตรวจคัดกรองหนองในแท้แต่ไม่มีอาการ โดยผลการตรวจมีความแม่นยำมากกว่า 99.9%
โรคหนองในแท้รักษาอย่างไร?
การรักษาโรคหนองในแท้ในปัจจุบัน แนะนำให้รักษาทั้งในผู้ที่มีอาการและไม่มีอาการ เนื่องจากในผู้ติดเชื้อหนองในแท้แต่ไม่มีอาการนั้นสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้ โดยการรักษาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคหนองในแท้คือยาฉีด Ceftriaxone หรือยากิน Cefixime ในกรณีที่ไม่สามารถฉีดยาได้ กรณีที่ผู้ติดเชื้อหนองในแท้แพ้ยาในกลุ่ม Cephalosporin อาจจะใช้เป็นยาฉีด Gentamycin แทนได้ ส่วนยาในกลุ่ม Quinolone เช่น Norfloxacin หรือ Ciprofloxacin ไม่แนะนำให้ใช้ในการรักษาโรคหนองในแท้เนื่องจากมีรายงานการดื้อยาของเชื้อหนองในแท้ต่อยากลุ่มนี้มากกว่า 50%
โรคหนองในแท้มีโอกาสเป็นซ้ำได้หรือไม่?
โรคหนองในแท้เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้และสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นกัน กรณีที่ผู้ติดเชื้อหนองในแท้มีคู่ที่มีเพศสัมพันธ์กันเป็นประจำ แนะนำให้รักษาคู่ของผู้ติดเชื้อหนองในแท้ด้วย เนื่องจากถ้ารักษาเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อหนองในแท้เพียงคนเดียว อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อหนองในแท้ซ้ำจากคู่ที่ไม่ได้รับการรักษาได้
โรคหนองในเทียมคลามัยเดีย
โรคหนองในเทียมคลามัยเดีย หรือ Chlamydia เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงที่ยังมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ โดยการติดเชื้อหนองในเทียมนั้นสามารถติดได้ทั้งที่ อวัยวะเพศชาย อวัยวะเพศหญิง ทวารหนัก และในช่องคอ เชื้อคลามัยเดียสามารถทำให้หญิงที่ติดเชื้อมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น การมีบุตรยาก การตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือเป็นหมันได้
โรคหนองเทียมสามารถติดต่อได้จากทางไหนบ้าง?
โรคหนองในเทียมคลามัยเดียสามารถติดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกับผู้ที่ติดเชื้อหนองในเทียมคลามัยเดียผ่านทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก แม้จะไม่ได้มีการหลั่งอสุจิก็ตาม นอกจากนี้ในมารดาที่มีการติดเชื้อหนองในเทียมระหว่างที่ตั้งครรภ์สามารถแพร่เชื้อหนองในเทียมคลามัยเดียให้แก่ลูกในขณะที่คลอดได้อีกด้วย
โรคหนองในเทียมมีอาการอย่างไรบ้าง?
ส่วนใหญ่ของผู้ที่ติดเชื้อหนองในเทียมมักจะไม่มีอาการ โดย 50% ของผู้ชายที่ติดเชื้อหนองในเทียมจะไม่มีอาการ และมากกว่า 75% ของผู้หญิงที่ติดเชื้อหนองในเทียมจะไม่มีอาการ
อาการของโรคหนองในเทียมที่พบได้ในผู้หญิง
- มีอาการปัสสาวะแสบขัด
- มีอาการตกขาวเหลืองเขียว
- อาจจะมีอาการเลือดออกขณะที่มีเพศสัมพันธ์
อาการของโรคหนองในเทียมที่พบได้ในผู้ชาย
- มีอาการปัสสาวะแสบขัด
- มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ
- อาจจะมีอาการปวดบวมบริเวณท่อสร้างอสุจิ
นอกจากนี้ในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก อาจจะมีอาการของหนองในเทียมที่ทวารหนัก ได้แก่ มีหนองเหลืองปนกับอุจจาระ มีอาการคันในรูทวารหนัก มีอาการปวดเวลาถ่ายอุจจาระ มีเลือดออกจากทวารหนัก ได้ หากมีอาการดังกล่าวข้างต้นควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราติดเชื้อหนองในเทียม?
การวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อหนองในเทียมคลามัยหรือไม่ สามารถทำได้โดยการตรวจหาการติดเชื้อ โดยปัจจุบันมีการตรวจหาการติดเชื้อหนองในเทียมที่นิยมตรวจ 2 วิธี
- ตรวจแบบ Rapid test ในผู้ที่มีอาการและมีหนอง โดยผลการตรวจมีความแม่นยำสูงมากกว่า 95%
- ตรวจแบบ PCR test ในผู้ที่มีอาการและไม่มีหนอง หรือผู้ที่ต้องการตรวจคัดกรองหนองในเทียมแต่ไม่มีอาการ โดยผลการตรวจมีความแม่นยำมากกว่า 99.9%
โรคหนองในเทียมรักษาอย่างไร?
การรักษาโรคหนองในเทียมในปัจจุบัน แนะนำให้รักษาทั้งในผู้ที่มีอาการและไม่มีอาการ เนื่องจากในผู้ติดเชื้อหนองในเทียมแต่ไม่มีอาการนั้นสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้ โดยการรักษาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคหนองในเทียมคือ ยา Doxycycline ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง เนื่องจากในปัจจุบันทาง CDC พบว่ามีรายงานเชื้อหนองในเทียมมีการดื้อยากิน Azithromycin มากขึ้น ซึ่งมีผลทำให้การรักษายา Azithromycin มีอัตราการหายน้อยกว่าการใช้ยา Doxycycline ที่มีอัตราการดื้อยาที่น้อยกว่ามาก
บริการพิเศษ สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาคลินิก
บริการจัดส่งยารักษาหนองใน
ทางคลินิกมีบริการส่งยาสำหรับรักษาอาการหนองในผ่านทางไปรษณีย์และ Grab ในราคาชุดละ 2,000 บาท (สามารถรักษาได้ทั้งหนองในแท้และหนองในเทียม)
คนไข้จะได้รับการคุยและประเมินโดยแพทย์ก่อนการจ่ายยาทุกครั้ง
สนใจสามารถสอบถามผ่านทางไลน์ @pskclinic
โทร 095-049-4142
